วันที่ใน excel (DATE)

วันที่ – DATE ใน excel เป็นเรื่องจุกจิกมากเวลาทำงานกับไฟล์จากหลายแหล่ง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่องการทำงานกับวันที่ใน Excel ให้ชัดเจน

วันที่ใน excel

การเก็บข้อมูลวันที่ ความจริงแล้วเป็นตัวเลข

วันที่ใน Excel จะถูกจัดเก็บเป็นตัวเลข แล้วจัดรูปแบบ (format) เพื่อแสดงในรูปแบบวันที่ อันนี้หากท่านลองสังเกต Excel จะมีการจัดชิดซ้ายชิดขวาตามประเภทของข้อมูล ถ้าเป็นพวก text หรือ ข้อความ ก็จะชิดซ้าย แต่ถ้าเป็นตัวเลข จะชิดขวา

ข้อมูลที่เป็น วันที่ จะชิดซ้าย เพราะเก็บข้อมูลเป็นตัวเลข นำไปคำนวณทางคณิตศาสตร์ได้

 การเก็บวันที่เป็นตัวเลขนี้ จะเริ่มนับ 1 จากวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1900

เช่น ถ้าเป็นตัวเลข 123456 ถ้าท่านจัดรูปแบบให้เป็นวันที่ ก็จะเป็นวันที่ 3 มกราคม พุทธศักราช 2781 แบบนี้เป็นต้น

วันที่ใน excel
การเก็บค่าวันที่ใน Excel

โอเค แล้วถ้าเราจะใส่วันที่ก่อนปีค.ศ. 1900 ล่ะ?

ลองใส่ 12/4/1854 เข้าไป ก็ใส่ได้นี่นะ

แต่ ถ้าสังเกต มันจะชิดขวา อย่างที่บอกข้างต้น ถ้าเป็นสิ่งที่นำไปคำนวณทางคณิตศาสตร์บวกลบคูณหารไม่ได้ Excel จะจัดชิดขวาเสมือนข้อความให้โดยอัตโนมัติ

การใส่วันที่ก่อนปีค.ศ. 1900 แม้จะใส่ถูกรูปแบบ แต่จะไม่ถือว่าเป็นวันที่

เราจะมองค่าที่แท้จริงได้จากค่าที่แสดงใน formular bar ด้านบน

ถ้าจำเป็นต้นจัดการข้อมูลวันที่ ก่อนปีค.ศ. 1900 จริง ๆ ก็มีวิธีอยู่ เพียงแต่ว่าจะยุ่งยาก และยังไม่เขียนถึงในตอนนี้ และโดยทั่วไป ทุกวันนี้เราไม่ได้ใช้งาน Excel จัดการกับวันที่ก่อนปีค.ศ. 1900 อยู่แล้ว

ข้อดีของการเก็บวันที่เป็นตัวเลข ก็คือ เราสามารถนำมาคำนวณ บวก ลบ กันได้เลยตรง ๆ   

วันและเวลา- DATE and TIME

เมื่อมีวันที่ ก็มีเวลา

การเก็บเวลาใน Excel ก็เหมือนกับวันที่ นั่นคือเก็บเป็นตัวเลข แต่คำว่า “ตัวเลข” ไม่ใช่ ว่า 14:00 คือตัวเลข

แต่ ในเมื่อ เลข 1 คือตัวแทนของ 1 วันเต็ม ๆ

เมื่อเอา 1 หารด้วย 24 ก็จะเป็น เวลา 1 ชั่วโมง

เมื่อเอา 1 หารด้วย 24 x 60 ก็จะเป็น 1 นาที

44927.542 เมื่อแปลงเป็นวันที่ และ เวลา ก็จะเป็น 1 มกราคม ค.ศ. 2023 เวลา 13:00 น

DATE

ข้อควรระวัง

วันที่ เป็นสิ่งที่ผิดพลาดกันง่ายมาก อย่าลืมว่า ที่เก็บ “วันที่” ในรูปแบบตัวเลข ก็เพื่อใช้การคำนวณ เช่นคำนวณวันทำงาน แต่ที่เจอบ่อย ๆ ก็คือ มีปัญหาในเรื่องการเก็บข้อมูลวันที่ ส่งผลมาถึงการคำนวณ

ระวังปีพุทธศักราช

ความผิดพลาดที่เจอบ่อย ๆ คือ มักจะชอบบันทึกวันที่เป็นปีพุทธศักราช

เช่นวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 ก็จะพิมพ์ว่า 1/1/2566

ถ้าหากใครคิดว่า พิมพ์ 1/1/2566 ถูกแล้ว มีความเป็นไปได้ 2 ทาง

  • ทางแรก ท่านทำในสิ่งที่ผิดพลาด
  • ทางที่สอง ท่านเป็นเซียนการใช้ Excel ที่ปรับแต่งทุกอย่างได้อยู่มือ

คงต้องย้ำอีกทีว่า วิศวกรและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้ออกแบบ  Microsoft Excel ทุกอย่างที่คิดค้นมาเป็นปีคริสต์ศักราช อย่าเพิ่งรักความเป็นไทยเวลาที่ทำงานกับซอฟต์แวร์ต่าง ๆ

อย่างเช่น ที่เครื่องของ Def Excel ที่ใช้งานอยู่ ถ้าหากพิมพ์ 1/1/2566 โปรดสังเกตค่าที่แท้จริงที่ปรากฏอยู่ใน formular bar ซึ่งดูไม่มีอะไรผิดปรกติ และเมื่อเราจัดรูปแบบให้เป็นรูปแบบไทย จะหลายเป็นวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 3109

ท่านโปรดนึกดูว่า ถ้าหากท่านคำนวณวันทำงาน ระหว่างวันที่ 1/12/2022 กับ 1/12/2566 ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะคลาดเคลื่อนทันที 543 ปี

สิ่งที่ควรจะทำ เมื่อพิมพ์วันที่เข้าไปตรง ๆ ก็คือ ให้นึกถึงฝรั่งเข้าไว้ คิดอะไรให้เป็นฝรั่ง นึกถึงปีคริสต์ศักราชเป็นบรรทัดฐาน

แล้วค่อยใช้วิธีการจัดการรูปแบบ หรือ format ในการทำให้แสดงผลเป็นปีพุทธศักราช

ระวังวันที่แบบสหรัฐอเมริกา

สิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างก็คือ สำหรับคนที่ตั้งค่าวันที่ในระบบปฏิบัติการ (เช่น Windows) เป็น English US หรือ ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน

เพราะอเมริกา (น่าจะเป็น) ประเทสเดียวในปัจจุบันที่ใช้รูปแบบ เดือน-วัน-ปี ดังนั้น ถ้าพิมพ์ 1/2/2022 อาจจะไม่ใช่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 อาจจะเป็นวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2022 ก็ได้

ถ้าไม่แน่ใจว่าตั้งระบบวันที่แบบไหนไว้ ให้เข้าไปที่  Start > Settings > Time & Language > Region

โปรดสังเกตว่า Region และ Regional format ของท่านอยู่ในแบบใด

Time & Language

ระวังถ้าพิมพ์ปีเพียงแค่ 2 หลัก

การพิมพ์ปี เพียงแค่ 2 หลัก เช่น 20 ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าหมายความว่าปีค.ศ. 1920 หรือว่า 2020

ความจริงก็คือ ถ้าท่านพิมพ์ตัวเลขระหว่าง 00-29 จะเป็นปีค.ศ. 20xx โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเป็นตัวเลขอื่น 30-99 จะกลายเป็น 19xx

การบันทึกเวลา

หลายคนเวลาบันทึกเวลา ชอบบันทึกแบบนี้ 13.30

ถ้า ท่านบันทึกแบบนี้ ขอให้เปลี่ยนใหม่ เพราะสิ่งที่ท่านบันทึกไม่ใช่เวลา แต่เป็นตัวเลขที่มีทศนิยม

อย่าลืมว่า เวลาของเรา เป็นเลขฐาน 60 ถ้าท่านต้องการบันทึกเวลา ต้องใช้ : (colon) เป็นตัวคั่น จึงจะนำไปคำนวณตามรูปแบบ

Funfact:

สำหรับตัวเลข 60 ถ้าเก็บเป็นรูปแบบวันที่ใน Excel จะเป็นวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1900 แต่ความจริงก็คือ ปีนั้น ไม่มีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ หลังจากวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันที่ 1 มีนาคม และ ไม่ใช่ว่าผู้พัฒนา Excel ไม่รู้ แต่เหตุผลก็คือ ซอฟต์แวร์ Lotus 1-2-3 ที่เป็นเจ้าตลาดในทศวรรษ 1980s มีบั๊กภายในระบบ ทำให้คำนวณว่ามีวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 1900 ดังนั้น Excel ตัดสินใจที่จะคงข้อมูลนี้ไว้เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในการเปิดไฟล์จาก Lotus 1-2-3 วันที่ 60 จึงเป็นวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1900 มาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าในความจริงจะไม่มีวันนี้อยู่ก็ตาม

และถ้าเป็นเลข 0 แทนที่จะเป็นวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1899 จะกลายเป็นวันที่ 0 มกราคม ค.ศ. 1900


อ้างอิง: DATEVALUE