หาค่าเฉลี่ย ด้วยฟังก์ชัน AVERAGE / AVERAGEA

หาค่าเฉลี่ย ในบล็อกนี้ จะเป็นการหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต โดยใช้ AVERAGE – เป็นการคำนวณขั้นพื้นฐานเพื่อหา “ค่าเฉลี่ย” ซึ่งหาง่าย ๆ ด้วยการนำผลรวมทั้งหมดมาหารด้วยจำนวน ซึ่ง excel อำนวยความสะดวกด้วยใช้ฟังก์ชันAVERAGE สำหรับใช้หาค่าเฉลี่ย

หาค่าเฉลี่ย (MEAN) ด้วย AVERAGE

สำหรับฟังก์ชัน AVERAGE จะทำหน้าที่หาค่าเฉลี่ยเลขคณิต หรือ มัชฌิมเลขคณิต (arithmetic mean) ในทางคณิตศาสตร์ หรือ ที่เรียกกันสั้น ๆ ค่า mean

มัชฌิมเลขคณิต  คำนวณจาก ผลรวมของข้อมูลหารด้วยจำนวนข้อมูล 

เช่น เรามีข้อมูลทั้งหมด 6 ตัว คือ 1, 2, 2, 3, 4, 5 ค่าเฉลี่ยของข้อมูลชุดนี้คือ 

(1 + 2 + 2 +3 + 4 + 5) /6

เท่ากับ 2.833333

รูปแบบไวยากรณ์

การเขียนสูตรด้วยฟังก์ชัน AVERAGE ไม่ยุ่งยาก แค่ใส่ตัวเลขที่ต้องการคำนวณเข้าไป นั่นคือ

AVERAGE(เลขตัวที่ 1, เลขตัวที่ 2, เลขตัวที่ 3, …)

ตัวอย่าง AVERAGE – ค่าเฉลี่ย

การคำนวณ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ตัวเลข  1, 2, 2, 3, 4, 5 เราใช้สูตรว่า

=AVERAGE(1,2,2,3,4,5)

ก็ได้ผลลัพธ์ 2.833333333 โดยประมาณ 

AVERAGE - ค่าเฉลี่ย

เขียนสูตรโดยอ้างอิงตำแหน่ง cell

เวลาเขียนสูตรจริง เราเกือบร้อยละร้อย จะนิยมใส่ข้อมูลไว้ในเซลล์ และใช้วิธีอ้างอิงตำแหน่งเซลล์แทน  อย่างเช่น ข้อมูล ใน A1 ถึง A6 เรียงลำดับ 1, 2, 2, 3, 4, 5 จะเขียนสูตรได้ว่า

=AVERAGE(A1:A6)

อันนี้ก็เป็นวิธีอ้างอิงตำแหน่งเซลล์ทั่วไป เช่น ถ้าจะหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตจาก คอลัมน์ A ทั้งหมด จะเขียนสูตรแบบนี้

AVERAGE - ค่าเฉลี่ย
=AVERAGE(A:A)

หาค่าเฉลี่ยเลขคณิตจากข้อมูลทั้งหมดในแถวที่ 1 จะเขียนสูตรแบบนี้

=AVERAGE(1:1)

หรือจะเว้นช่วง เอา A2 ถึง A10 และ A12 ถึง A50

=AVERAGE(A2:A10, A12:A50)

สิ่งพึงระวังเมื่อใช้ AVERAGE

ถ้าหากเราใช้การอ้างอิงตำแหน่งเซลล์ในฟังก์ชัน AVERAGE จะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า หากเซลล์นั้นไม่มีค่า (Null – ไม่ได้ใส่ค่าอะไรเลย) ฟังก์ชัน AVERAGE จะละเว้นเซลล์นั้น ซึ่งเรื่องนี้มีผลกับผลลัพธ์ที่ออกมา

อย่างเช่น 

ข้อมูลใน A1 ถึง A7 ใส่ 1, 2, 2, 3, 4, 5 โดยเว้นเซลล์ A4 ว่างไว้

=AVERAGE(A1:A7)

ผลลัพธ์ก็ยังได้เป็น 2.833333333 เหมือนตัวอย่างข้างบน

AVERAGE - ค่าเฉลี่ย

แต่ถ้า เราใส่เลข 0 ที่เซลล์ 4 ผลลัพธ์จะได้เป็น 2.42857

หาค่าเฉลี่ย

เพราะในตอนที่ เซลล์ A4 ว่าง ฟังก์ชัน AVERAGE จะไม่นำมาคำนวณด้วย แต่เมื่อใส่ค่า 0 ที่ A4 จะนำมาคำนวณด้วย

นอกเหนือจากค่าว่างแล้ว ค่าตรรกะ (Boolean – True False) และ ข้อความ (text) ก็จะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกัน คือไม่นำมาคำนวณ

อย่างเช่น เราใส่ตัวเลขและข้อความ รวมถึงตรรกะ ในเซลล์ A1 ถึง A11 ดังนี้

1, 2, 2 3, Def, TRUE, FALSE, ,4, Excel,5

ถ้าเราใส่สูตร

AVERAGE(A1:A11) 

ผลลัพธ์จะได้ 2.8333333 เหมือนเดิม เพราะไม่มีการนำค่าว่าง ค่าตรรกะ และข้อความ มานับรวมในการคำนวณสูตร์ฟังก์ชัน AVERAGE

หาค่าเฉลี่ย

หาค่าเฉลี่ย ด้วย AVERAGEA

ถ้าต้องการรวมค่าตรรกะ (TRUE FALSE) และการแสดงข้อความ เป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณให้ใช้ฟังก์ชัน AVERAGEA

ฟังก์ชัน AVERAGEA นี้ใช้งานเหมือนกับ AVERAGE แทบทุกประการ สิ่งที่แตกต่างกันจะเป็นเพียง การนับค่าตรรกะและการแสดงข้อความ ซึ่งถ้าเป็นการใช้ฟังก์ชัน AVERAGE จะละเว้นไม่นำมาคำนวณด้วย

รูปแบบการเขียนสูตร เหมือน AVERAGE ทุกประการ

ตัวอย่างเดิม เปลี่ยนจาก AVERAGE เป็น AVERAGEA 

=AVERAGEA(A1:A11)

ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็น1.8 ไม่เท่ากับ AVERAGE(A1:A11)

หาค่าเฉลี่ย

สิ่งพึงระวัง

เซลล์ที่ไม่ได้ใส่ค่าอะไรเลย จะไม่นำมาคำนวณ เช่นเดียวกับการใช้ฟังก์ชัน AVERAGE

ถ้ามีข้อความ หรือแม้แต่ข้อความที่เป็นค่าว่าง (“”) ที่ได้จากสูตรคำนวณหรือฟังก์ชันอื่นแสดงมาก็ตาม จะคำนวณโดยให้มีค่าเท่ากับ 0

ค่าทางตรรกะ (Boolean) ถ้าเป็นค่า TRUE จะคำนวณโดยมีค่าเท่ากับ 1 ถ้าเป็น FALSE จะคำนวณโดยมีค่าเท่ากับ 0

สำหรับการหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตแบบมีเงื่อนไข ใช้ AVERAGEIF หรือ AVERAGEIFS

อ้างอิง เว็บไซต์ไมโครซอฟต์ เรื่อง AVERAGE function และ AVERAGEA function

1 thought on “หาค่าเฉลี่ย ด้วยฟังก์ชัน AVERAGE / AVERAGEA”

  1. Pingback: AVERAGEIF / AVERAGEIF - Def Excel

ความคิดเห็น