COLUMN เป็นฟังก์ชันที่ไม่ซับซ้อน คือมีหน้าที่แค่จะแสดงลำดับเลขคอลัมน์ จาก การอ้างอิงตำแหน่ง

COLUMN

การใช้ฟังก์ชันนี้ไม่มีอะไรยุ่งยาก คือ เพียงแค่

=COLUMN([reference])

ไวยากรณ์ของฟังก์ชันนี้ไม่มีอะไรมาก คือ ใส่ค่าแต่เซลล์ที่อ้างอิงที่ต้องการทราบตำแหน่งคอลัมน์ แต่โปรดสังเกตว่า มี [ ] ครอบไว้ หมายความว่า ไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้

เช่น ที่เซลล์ C5เราเขียนสูตร

=COLUMN() 

จะได้ผลออกมาเป็น 3

เพราะคอลัมน์ C คือคอลัมน์ลำดับที่ 3

แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราใช้เป็น range แทนที่จะอ้างอิงแค่เซลล์เดียว?

ถ้าฟังก์ชัน COLUMN ที่ใส่ไว้เป็นสูตรอาร์เรย์แนวนอน ฟังก์ชัน COLUMN จะส่งกลับหมายเลขคอลัมน์ของการอ้างอิงเป็นอาร์เรย์แนวนอน ถ้าใช้งานจาก Microsoft 365 (หรือ OFFICE เวอร์ชันล่าสุด) จะให้อาร์เรย์แบบไดนามิก ไม่ต้องทำอะไรเลย

กรณีใช้ range จะได้ผลลัพธ์เป็น array

แต่ถ้าท่านใช้เวอร์ชันเก่า ต้องใส่สูตรอาร์เรย์ดั้งเดิม โดยเลือกช่วงผลลัพธ์ก่อน ใส่สูตรในเซลล์ด้านซ้ายบนของช่วงผลลัพธ์ แล้วกด CTRL+SHIFT+ENTER เพื่อยืนยัน Excel จะแทรกวงเล็บปีกกาที่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของสูตรให้อัตโนมัติ