ฟังก์ชัน INT (หรือ integer) เป็นฟังก์ชันคณิตศาสตร์และตรีโกณมิติในเอ็กเซล ที่จะส่งกลับจำนวนเต็มของตัวเลขที่กำหนด โดยปัดเศษทศนิยมให้เป็นจำนวนเต็ม ซึ่งจะเป็นการปัดเศษลง
ฟังก์ชัน INT
ไวยากรณ์การใช้ฟังก์ชันนี้ไม่ยุ่งยากอะไรคือ
=INT(ตัวเลข)
สำหรับ ตัวเลข จะเป็นการใส่ตัวเลขตรง ๆ หรือ การอ้างอิงตำแหน่งเซล หรือว่ามาจากสูตรคำนวณอื่นก็ได้ ตัวเลขจะดำเนินการได้ทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นค่าทศนิยม เศษส่วน หรือค่ารากที่สอง สุดท้ายแล้ว เราก็จะได้ผลลัพธ์จำนวนเต็ม
ฟังก์ชันจำนวนเต็มจะปัดเศษตัวเลขที่ป้อนในสูตรลงให้เป็นค่าจำนวนเต็มต่ำสุดถัดไปเสมอ ตัวอย่างเช่น INT (1.23) ส่งกลับค่า 1
ตรงนี้ต้องระวังว่าท่านต้องการอะไร? ในตัวเลขทั่วไปจะไม่เห็นความแตกต่างนัก แต่เมื่อเป็นค่าติดลบ เวลาใช้ INT จะเป็นค่าที่ต่ำกว่า เช่น
- เช่น INT (1.23) จะได้ผลลัพธ์เป็น 1
- ถ้าเป็น INT (-1.23) จะได้ผลลัพธ์เป็น -2
ในกรณีที่ต้องการเฉพาะ จำนวนเต็มตัวหน้า (เช่น 1 หรือ -1 ในตัวอย่างข้างต้น) ควรใช้ฟังก์ชัน TRUNC มากกว่า
ถ้าสิ่งที่ใส่ในสูตรไม่ใช่ตัวเลข จะส่งกลับค่า #VALUE! กลับมา
การใช้ INT กับวันที่
มี tips อย่างหนึ่งที่อยากแนะนำ คือการใช้ INT กับวันที่
ใช้จ้ะ ใช้กับวันที่ได้ด้วยนะ อย่าลืมว่า INT ใช้กับข้อมูลที่เป็น “ตัวเลข” ได้ทั้งหมดทั้งสิ้น และ “วันที่” ใน Excel
เช่น พิมพ์ 02/01/2024 ลงไป ถ้าเราใช้ INT(02/01/2024) จะได้ 02/01/2024 เพราะมันคือจำนวนเต็ม
คงไม่ลืมกันว่า สำหรับเอ็กเซลจะเก็บข้อมูลวันที่เป็นตัวเลขนะจ๊ะ
แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร (อันนี้ท่านผู้อ่านคงถามในใจ)
เคยเจอหรือไม่ บางทีเราเจอวันที่ พร้อม เวลา เช่น 02/01/2024 11:30:00
ก็มักจะมีคนสอบถามว่า จะตัดเอาแต่วันที่ได้อย่างไร คำตอบง่าย ๆ ก็คือ ใช้ INT นี่แหละ
อ้างอิง: เว็บไซต์ไมโครซอฟต์