ฟังก์ชัน MIN ใน Excel เป็นฟังก์ชันเพื่อใช้หาค่า “ตัวเลข” ที่น้อยที่สุดในกลุ่ม ฟังก์ชันนี้เรียบง่าย ตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรมาก คือหาค่าตัวเลขที่น้อยที่สุดในกลุ่มที่จะหานั่นแหละ
ความจริง ไม่จำเป็นต้องเขียนถึงฟังก์ชันนี้ก็ได้เพราะเขียนถึงฟังก์ชัน Max ไปเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างเหมือนกันหมด เพียงแค่กลับขั้วจากมากเป็นน้อยเท่านั้นเอง
แต่ด้วยตั้งใจไว้ว่าจะทำคำอธิบายฟังก์ชันแต่ละฟังก์ชัน ก็เลย เอาวะ เขียนซะหน่อยจะได้ครบ แต่ถ้าอ่านแล้วรู้สึกคุ้น ๆ ก็โปรดทราบตามที่แจ้งข้างบนนี่แหละจ้ะ
ไวยากรณ์
=MIN(ตัวเลข1, ตัวเลข2, ...)
เหมือน Max เลยจ้า การวางไวยากรณ์เหมือนกันทุกอย่าง
ตัวอย่าง
สมมติเรามีตัวเลข 3 ตัว คือ 1, 2, และ 3 เราสามารถหาค่าที่มากที่สุดได้ดังนี้
=MIN(1, 2, 3)
ผลลัพธ์ที่ได้คือ 1
การใช้งานจริง
ในการทำงานจริงเราอาจไม่ได้ใส่ตัวเลขลงไปตรงๆ แบบนี้ แต่อาจใส่ตัวเลขไว้ในเซลล์ต่าง ๆ เช่น ใส่ตัวเลข 1, 2, 3 ลงในคอลัมน์ A เริ่มจากเซลล์ A1 ถึง A10 เราสามารถหาค่าที่มากที่สุดของตัวเลขที่อยู่ในกลุ่มนี้ได้ดังนี้
=MIN(A1:A10)
ข้อควรระวัง
ฟังก์ชัน MIN รับการป้อนค่าได้เพียง 255 ค่า
ถ้าค่าที่ใส่ลงไปเป็นอาร์เรย์หรือการอ้างอิง ระบบจะใช้เฉพาะตัวเลขในอาร์เรย์หรือการอ้างอิงนั้นเท่านั้น เซลล์ว่าง ค่าตรรกะ หรือข้อความในอาร์เรย์หรือการอ้างอิงจะถูกละเว้น
อาร์กิวเมนต์ที่เป็นค่าความผิดพลาดหรือข้อความที่ไม่สามารถแปลเป็นตัวเลขได้จะทำให้เกิดข้อผิดพลาด
ตัวอย่าง
ตัวอย่างที่ 1: หาค่าคะแนนสอบที่น้อยที่สุด
สมมติเรามีข้อมูลคะแนนสอบของนักเรียน 10 คน ดังนี้
เราจะหาอะไร
สมมติเราจะหาที่มากที่สุด จากคะแนนสอบทั้งหมด เราใส่ค่า
=Min(B2:D10)